Dancing Rah Rah Smiley

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558

สรุปนอกห้องเรียน (25th August, 2015)

                                                                 สรุปนอกห้องเรียน

ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางของโลก ใครรู้ภาษาอังกฤษก็สามารถลุยได้ทั่วโลก ทั้งการต่อยอดการศึกษา การทำงานและการทำการค้าสำหรับในประเทศไทยเป็นที่รู้กันอยู่ว่าภาษาอังกฤษเพิ่มโอกาสการได้รับเข้าทำงาน เท่านั้นไม่พอ ความรู้ภาษาอังกฤษช่วยให้ได้งานดีเงินเดือนสูง งานฝ่ายขายต่างประเทศ งานจัดซื้อต่างประเทศ งานเหล่านี้เงินเดือนเริ่มต้นที่ 20,000-50,000 บาททั้งสิ้น ส่วนการค้า ใครได้ภาษาค้าขายกับฝรั่ง ทำส่งออก หรือทำ eBay, Amazon, Alibaba ฯลฯ ร่ำรวยกันไป หรือถ้าจะทำงานบริการก็รับจ้าง รับเขียน รับแปล งานกับฝรั่งก็ได้เงินเยอะมาก สมองของคนมีกำลังในการจดจำที่จำกัด สมมุตสมองจำได้ 10 หน่วย วันนี้คุณท่องจำ 10 คำ พรุ่งนี้ท่องจำอีก 10 คำ ตัวทีท่องเมื่อวานก็ลืมแล้ว หากผ่านไป 1-2 เดือนไม่ได้ใช้งานก็ลืมหมดเกลี้ยง แต่การใช้งานจริงเช่นการสื่อสาร สนทนา พูดคุย เหล่านี้เรียกว่าประสบการณ์ ประสบการณ์จะบันทึกลงไปในจิตใต้สำนึกซึ่งมีศักยภาพสูงกว่าสามัญสำนึก นั่นจึงเป็นเหตุให้คุณจำคำศัพท์และประโยคได้ กล่าวคือไม่ได้จำจากความจำระดับสมอง แต่จำจากประสบการณ์ในจิตใต้สำนึก

วิธีการฝึกภาษาอังกฤษด้วยตนเอง คือ ตามอ่านอะไรที่เราสนใจ ตอนเด็กๆหลายคนอาจจะไม่ชอบภาษาอังกฤษ เพราะโดนครูบังคับให้อ่านเรื่องอะไรก็ไม่รู้ แต่ลองเริ่มอ่านเรื่องที่เราสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน กีฬา ดนตรี ข่าวซุบซิบดาราฝรั่ง หรือมุมขำๆในหนังสือพิมพ์ จำไว้เลยว่าไม่มีอะไรไร้สาระ เพราะเรากำลังเรียนรู้อยู่ ฟังวิทยุให้ชิน การฟังวิทยุนั้นจะช่วยให้เราได้ฟังทั้งเสียงคนพูด รวมถึงเสียงร้องเพลง เป็นการฝึกหูในชินกับภาษาในหลายๆรูปแบบอีกวิธีหนึ่งด้วยไม่จำเป็นต้องแปลเป็นภาษาไทย การฝึกภาษาอังกฤษให้เข้าใจนั้น ไม่จำเป็นที่เราต้องอ่านหรือฟังแล้วแปลเป็นภาษาไทย อาจจะสงสัยว่าไม่แปลเป็นไทยแล้วจะเข้าใจยังไง การไม่พยายามแปลเป็นไทยจะช่วยให้เราสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วขึ้นด้วย แปะกระดาษโน้ตบนสิ่งของต่างๆ วิธีนี้จะเหมือนการเอาข้าศึกมาล้อมเมือง การแปะชื่อสิ่งของต่างๆที่เราใช้เป็นภาษาอังกฤษ ช่วยทำให้ชีวิตได้คุ้นเคยกับคำเหล่านี้มากขึ้น และเป็นการฝึกอ่านฝึกความเข้าใจไปในตัวด้วย ดูทีวีและภาพยนตร์ภาษาอังกฤษ การดูภาพ ฟังเสียง และอ่านซับไตเติ้ลภาษาไทยไปพร้อมๆกัน ช่วยฝึกประสาทการรับรู้ในหลายๆช่องทาง ซึ่งต่อไปก็สามารถเปลี่ยนจากซับไทย เป็นซับอังกฤษ ไปจนถึงขั้นปิดซับได้ในท้ายที่สุด การเล่นเกมที่ใช้คำภาษาอังกฤษบ่อยๆสมัยนี้มีเทคโนโลยีอย่างสมาร์ทโฟน เราจึงสามารถหาแอพพลิเคชั่นเกมภาษาอังกฤษ เช่น Crosswords มาเล่นแก้เบื่อในยามว่างได้ ทีนี้ก็ลองเปลี่ยนจากแชทไลน์มาเป็นเล่นเกมแนวนี้แทน จะช่วยพัฒนาได้อีกทาง ใช้คำต่างๆเป็นภาษาอังกฤษมากขึ้น วิธีนี้หลายคนอาจจะมองดูว่ากระแดะหรือเปล่า? จริงๆแล้วเป็นเพียงการใช้คำให้ถูกกับภาษาอังกฤษมากขึ้น โดยพยายามพูดอังกฤษบ่อยๆในศัพท์ที่ใช้ได้ เช่นเปลี่ยนคำว่ามือถือ เป็น Smart Phone เปลี่ยนคำว่า นาฬิกาปลุก เป็น Alarm เป็นต้น
การทำลิสต์ต่างๆให้เป็นภาษาอังกฤษ ขั้นตอนนี้อาจจะลำบากในตอนแรก แต่ถ้าเราลองลิสต์ต่างๆให้เป็นอังกฤษจะช่วยเราให้คุ้นเคยได้มากขึ้น อย่างเช่น ลิสต์กิจกรรมที่ต้องทำพรุ่งนี้ ลิสต์ตารางไปเที่ยวพักผ่อน หรือลิสต์ของที่ต้องซื้อเข้าบ้าน ให้เป็นภาษาอังกฤษซะ การลงทุนซื้อ Dictionary ดีๆสักเล่ม นี่คือการลงทุนที่คุ้มค่า แม้จะมีราคาค่อนข้างแพงไปบ้าง แต่ก็ช่วยให้เราสามารถเข้าใจและพัฒนาภาษาไปได้ดีกว่า (สำหรับคนทุนน้อยจริงๆ ข้อนี้อาจจะข้ามไปได้บ้าง) เราชอบอะไร ทำสิ่งนั้นเป็นภาษาอังกฤษ ความชอบ ความรัก มันทำให้เราสามารถทำอะไรก็ได้อย่างมีความสุขและไม่น่าเบื่อ ถ้าชอบทำอาหาร ก็เปลี่ยนเมนูอาหารเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าชอบเล่นกีฬาหรือดนตรี ก็ดาวน์โหลดวิดีโอการฝึกซ้อมแบบภาษาอังกฤษมาดู ถ้าชอบเล่นเกมก็ฝึกอ่านคู่มือเกมภาษาอังกฤษ เราก็จะหลงรักมันโดยไม่รู้ตัวเลย การจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ดีนั้นเราควร จำศัพท์เป็นกลุ่ม: วิธีที่จะจำศัพท์ได้ง่าย คุณควรจะต้องจำเป็นกลุ่มคำที่มีความหมายเหมือนกัน และกลุ่มคำที่มีความหมายตรงกันข้ามกันจำศัพท์และวาดภาพคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกัน: ถ้าคุณสามารถวาดภาพของคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกัน ออกมาเป็นแผนผังหรือจัดหมวดหมู่ ความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันระหว่างศัพท์เหล่านั้น แล้วเขียนออกมาเป็นแผนผัง จะทำให้คุณจำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น การใช้อุปกรณ์ช่วย  อาจทำบัตรคำศัพท์ภาษาอังกฤษ พร้อมความหมาย และตัวอย่างประโยค แล้วนำมาเปิดอ่านหรือท่องในยามว่าง และเพิ่มคำศัพท์เหล่านั้นทุกสัปดาห์ คุณก็จะมีสต๊อคคำศัพท์ที่สามารถนำมาใช้ได้ทันที การสร้างจุดเด่นของลักษณะคำศัพท์กลุ่มนั้น  เช่น เมื่อกำหนดกลุ่มคำศัพท์ได้แล้วว่ากลุ่มที่หนึ่งคือกลุ่มคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน คุณก็กำหนดให้กลุ่มนั้นเป็นสีฟ้า (คำศัพท์เหล่านั้นก็จะใช้ปากกาเน้นข้อความสีฟ้า เน้นทับไปที่กลุ่มคำเหล่านั้น), กลุ่มที่สองคือกลุ่มคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องอวัยวะหรือส่วนต่างๆในร่างกาย คุณก็กำหนดให้กลุ่มนั้นมีสีเหลือง (คำศัพท์เหล่านั้นก็จะใช้ปากกาเน้นข้อความสีเหลือง เน้นทับไปที่กลุ่มคำเหล่านั้น) เป็นต้น ซึ่งสีที่แตกต่างกัน จะทำให้จำคำศัพท์เหล่านั้นได้ง่ายขึ้น การ ตั้งเป้าหมายอย่างง่ายๆแต่ทำอย่างสม่ำเสมอ : คือการตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเปิดคำศัพท์เหล่านั้นทบทวนสัปดาห์ละ 3 ครั้ง และตั้งเป้าว่าจะเพิ่มคำศัพท์ 15-20 คำศัพท์ต่อสัปดาห์ อย่างสม่ำเสมอ
เคล็ดลับการเก่งภาษาอังกฤษ  เริ่มจากการฟังอะไรที่ง่ายๆ จะได้มีกำลังใจไม่ท้อตั้งแต่แรก ทั้งนี้รวมทั้งที่เป็น slow speed เพราะในระยะแรกเราอาจจะไม่คุ้นเคยกับที่เป็น normal speed ซึ่งการฝึกฟังช้าๆ จะทำไรเราชินกับสำเนียง และสำนวนพูด การฟังเรื่องที่เราถูกใจ เพราะจะนำไปสู่ความสุขใจ ใส่ใจ และเข้าใจ มากกว่าฟังเรื่องที่เราไม่ค่อยสนใจหรือต้องทนฟัง ให้ฝึกฟังเรื่องที่จบภายในเวลาสั้นๆ ในระยะเริ่มต้น ถ้าฝึกฟังเรื่องที่ยาวเกินไปจะทำให้สมองล้ารับไม่ไหว การฟังพร้อมอ่าน หรืออ่านก่อนฟัง หรือฟังแล้วอ่าน จะฝึกแบบไหนก็ตามถนัด การอ่านจะช่วยผ่อนแรงในการสร้างความเข้าใจเรื่องที่ฟัง การฟังพร้อมดูวีดิโอ การที่สามารถรับสารผ่าน 2 ประสาท คือ ทางหูและทางตา จะช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น ยิ่งถ้ามี subtitle ให้อ่านพร้อมกับชมภาพวีดิโอที่เคลื่อนไหว ยิ่งช่วยให้เข้าใจยิ่งขึ้นไปอีก การ ฝึกฟังน้อยๆ แต่ฟังบ่อยๆ ดีกว่าฝึกฟังนานๆ แต่ไม่บ่อย เพราะฉะนั้นการฝึกฟังวันละ 15 นาทีแต่ฟังทุกวันใน 1 สัปดาห์ ย่อมดีกว่าในสัปดาห์หนึ่งฟังนานถึง 2 ชั่วโมง แต่ฟังครั้งเดียวลองฟังโดยใช้หูฟัง จะได้ยินสำเนียงชัดขึ้น ช่วยให้ง่ายในการฝึกออกเสียงตาม แต่อย่าเปิดเสียงดังเกินไปนะครับ ฟังนาน ๆ เดี๋ยวจะหูตึง การ ฝึกฟังพร้อมพูดตาม การฝึกพูดตามจะช่วยสร้างความมั่นใจว่า เราฟังได้ถูกต้อง เพราะถ้าเราฟังได้ถูกต้องเราก็น่าจะพูดได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ การฟังโดยมีภาระที่จะต้องพูดให้ได้ตามที่ฟังจะทำให้เราใส่ใจในการฟังมากขึ้น การฟังอย่างตั้งใจ ถ้าเราจะอุทิศเวลาวันละ 2030 นาทีเพื่อการฝึกฟังภาษาอังกฤษ ก็ต้องให้ทั้ง 1 ใจไปพร้อมกับ 2 หู ถ้าให้แต่หูไม่ให้ใจฝึกฟังเท่าไร ๆ ก็มักไม่ค่อยได้ผล การฟังด้วยความสุข ถึงยังฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็ไม่ได้แปลว่าฟังไม่ได้เรื่อง แม้ในระยะแรกๆ อาจจะรู้สึกว่าท้อ แต่เรียนภาษาอังกฤษไม่มีทางลัด คนที่เอาแต่มองหาทางลัดและไม่ค่อยตั้งใจเดินไปตามทางตรงที่มีให้เดิน จะเดินไปถึงปลายทางได้ช้ากว่าคนที่ตั้งใจเดินไปตรงๆ
ดังนั้นเราควรอ่านบทความภาษาอังกฤษบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือหนังสือภาษาอังกฤษอื่นๆ และเมื่ออ่านแล้วก็จะพบว่าจะมีศัพท์ภาษาอังกฤษบางคำที่เราไม่รู้ความหมาย ก็นำไปเปิดหาความหมายและจดจำไว้ซึ่งการที่เราอ่านบทความและเจอศัพท์ที่ไม่รู้แล้วนำไปเปิดหาความหมายนั้นจะช่วยให้เราสามารถจำศัพท์ได้นานกว่ามานั่งท่องทีละคำอย่างแน่นอน เพราะเมื่อเจอศัพท์เหล่านี้อีกครั้ง ก็จะจำได้ว่าเคยเจอมาก่อนในประโยคนี้ในบทความนี้ แล้วเราก็จะนึกความหมายออกอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยให้เราสามารถนำไปใช้ได้ดีขึ้นด้วย เพราะครั้งแรกที่เราเห็นศัพท์นั้นเราได้เห็นวิธีการใช้ศัพท์นั้นผ่านประโยคในบทความด้วย และที่สำคัญเราควรพกสมุดจดศัพท์สักเล่ม เมื่อเจอศัพท์ใหม่ที่ไม่เคยเจอก็จดศัพท์เหล่านั้น พร้อม part of speech และ ตัวอย่างประโยค ไว้ในสมุดด้วย เช่น inevitable (adj.) ex. This car accident is in evitable. เป็นต้น และในทุกๆวันก็นำศัพท์เหล่านี้มาทบทวน และทดลองคิดประโยคที่นำศัพท์เหล่านี้ไปใช้ได้ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้จำศัพท์ได้แล้ว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น