Learning log
(11th
August ,2015)
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่จำเป็นมากๆในยุคนี้
เพราะสามารถทำให้เรามีหน้าที่การงานที่ดี
ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารกับชาวต่างชาติได้เกือบครึ่งโลก และโดยส่วนมากแล้ว
ความรู้ทั้งหลายจะเป็นภาษาอังกฤษ ในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษนั้น ต้องใช้ความมานะพยายามและความอดทนสูง
หลักการศึกษาวิชาภาษาอังกฤษให้ได้ผลนั้น ไม่มีหลักสูตรสำเร็จตายตัว เพราะความสำเร็จในการเรียนภาษา
ซึ่งเป็นวิชาทักษะนั้น อาศัยทั้งความเข้าใจและการฝึกฝนทบทวนต่างๆ
ก่อนที่เราจะเรียนภาษาอังกฤษ เช่น เมื่อพูดไปแล้วผู้ฟังไม่เข้าใจ พูดแล้วติดชัด
เราควรเปลี่ยนความคิดใหม่โดยการตั้งใจ เริ่มต้นที่จะฝึกพูดภาษาอังกฤษใหม่
โดยเริ่มจากการฟัง พูด ซึ่งเมื่อเราฟังเยอะๆ
เราก็สามารถเลียนแบบสำเนียงของเจ้าของภาษาได้
และเราก็จะสามารถพูดได้โดยการฝึกบ่อยๆ
ทักษะการฟังที่ดีนั้น มีอยู่ 5 ระดับ
ซึ่งจะสามารถช่วยให้เราฟังเจ้าของภาษาได้ดียิ่งขึ้น พฤติกรรมในการเรียนรู้มีอยู่ 5 ระดับ คือ1 ขั้นรับรู้ โดยการฝึกสังเกตความแตกต่างของภาษาเกี่ยวกับ
เสียง คำ การเน้น และระดับเสียงขึ้น และลงของข้อความ 2 ขั้นระลึก
คือสามารถที่จะเข้าใจความหมายขิงข้อความสั้นๆ ที่ได้ยินได้ 3 ขั้นรับความคิด
สามารถที่จะเข้าใจสัญลักษณ์ทางไวยากรณ์ คำศัพท์ ประโยค และบทความสั้นๆ 4 ขั้นเข้าใจ คือสามารถเข้าใจคำอธิบาย รู้จักจับความของข้อความที่ได้ยิน
แม้ว่าจะมีคำที่ไม่รู้ความหมายอยู่ด้วยก็สามารถฟัง และเข้าใจข้อความที่ผู้พูด
พูดออกมาอย่างรวดเร็วได้ 5 ขั้นวิเคราะห์
คือสามารถแยกแยะได้ว่าข้อความที่ได้ยินว่าเป็นภาษามาตรฐานหรือไม่
มีรูปประโยคถูกต้องหรือไม่ เข้าใจอารมณ์ ความรู้สึก
และความมุ่งมั่นของผู้พูดจากน้ำเสียงและถ้อยคำที่เน้น สามารถประเมินได้ว่า
ถ้อยคำที่เน้นนั้นสื่อสารความคิดได้หรือไม่ ในปัจจุบันนี้มีสื่อต่างๆ
ที่ช่วยให้พัฒนาทักษะการฟังอยู่มากมาย เช่น รายการโทรทัศน์
ประเภทสารคดีภาษาอังกฤษจะมีบทสัมภาษณ์บุคลต่างๆ บางรายการอาจจะมีความแปลภาษาไทยกำกับอยู่ด้วย
รายการวิทยุภาคภาษาอังกฤษ ภาพยนตร์ หรือ เพลง ก็สามารถช่วยได้มาก
ขั้นในการฝึกฝน
1.
ฟังรอบแรกรวดเดียวจบโดยไม่ดูบทความที่แนบกับคลิปเสียง
สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หามุมที่นั่งสบายๆ ผ่อนคลาย ไม่ต้องกังวลว่าจะฟังไม่รู้เรื่อง
2.
ฟังซ้ำอีกครั้งเพื่อเก็บรายละเอียดเพิ่มเติม
3.
ฟังและหยุดคลิปทุกๆห้านาที
ขณะที่หยุดนั้นให้เขียนคำหรือวลีอะไรก็ได้ที่คุณได้ยินออกมาให้ได้มากที่สุด
เมื่อฟังจบทั้งคลิปแล้ว ลองอ่านโน้ตย่อๆ ของเราดูว่า
เราพอจะจับคอนเซ็ปต์ได้หรือไม่ ว่าในคลิปกำลังพูดถึงเรื่องอะไร การฝึกเบื้องต้น
เราไม่จำเป็นต้องเข้าใจทุกคำพูด
4.
ทำซ้ำแบบเดิมกับข้อ3 แต่พยายามเติมคำศัพท์ลงไปให้มากๆ
และแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ จากการเขียนครั้งแรก
5.
เขียนเรียบเรียงข้อมูลให้เป็นประโยค ลองใช้ความรู้ทางด้านไวยากรณ์
ปะติดปะต่อคำหรือวลีต่างๆเข้าด้วยกัน
6.
เก็บโน้ตย่อชิ้นเราออกไป เริ่มฟังคลิปอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ให้หยุดคลิปทุกๆสิบนาที แล้วเขียนสิ่งที่ได้ยินออกมาเหมือนเดิม
จากนั้นลองนำมาเปรียบเทียบกับโน้ตชิ้นเก่า
7.
ฟังคลิปเสียงอีกครั้งโดยอ่านโน้ตย่อของตนเอวตามไปด้วย
8.
เปรียบเทียบโน้ตย่อกับบทความจริงที่ถูกต้อง ถ้าพบว่ามีคำผิดเยอะ
ต้องลองวิเคราะห์ดูว่าปัญหาในการฟังของคุณเกิดจากสาเหตุอะไร บางคนอาจจะฟังไม่รู้เรื่อง
เพราะออกเสียงไม่ถูกต้องไม่รู้จักคำศัพท์ หรือมีปัญหากับเสียงหนัก เสียงเบา
การเชื่อมคำ การรวมประโยคก็ต้องลองแก้ปัญหาเป็นจุดๆไป
9.
ฟังคลิปอีกครั้งไปพร้อมๆกับการอ่านบทความที่ถูกต้อง
เพื่อเช็คว่าตรงไหนบ้างที่คุณพลาดไป จากนั้นลองกลับฟังรอบสุดท้ายแบบไม่อ่านโน้ตและบทความเลย
ซึ่งพอถึงขั้นตอนนี้คุณควรเข้าใจเรื่องราวในนั้นมากยิ่งขึ้น นอกจากการฟังที่ดีแล้ว
เราควรที่จะพูดภาษาอังกฤษให้ได้ดีด้วย
เพราะการพูดทำให้เราสามารถสื่อสารกับบุคคลทั่วโลกได้
เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลของโลก
ทักษะการพูด เป็นพฤติกรรมทางด้านการแสดงออก
เนื่องจากคนไทยมิใช่ขนขาติที่ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ทักษะการพูดภาษาอังกฤษ
จึงอาจจะเป็นทักษะการพูดภาษาอังกฤษ จึงอาจเป็นทักษะที่ดูเหมือนค่อนข้างจะยาก
ในด้านของการอ่านออกเสียงหรือ ออกสำเนียงให้ถูกต้อง
แต่หากผู้เรียนมีความพากเพียรหมั่นฝึกฝนตนบ่อยๆก็อาจสามารถทำได้ดีเช่นเดียวกัน
ถึงแม้ว่าจะมีผิดเพี้ยนไปบ้าง
ผู้เรียนก็ควรให้ความสำคัญต่อการพยายามสื่อสารให้ได้ความหมายที่สุด
องค์ประกอบสำคัญ นอกจากเสียงหรือสำเนียงแล้ว ได้แก่ คำศัพท์ ไวยากรณ์ ระเบียบวิธีของความสัมพันธ์ระหว่างประโยค
ตลอดจนการใช้กริยา ท่าทาง ประกอบในการสื่อสาร เราสามารถที่จะทดลองฝึกพูดเทปเสียง
ประจำชุดวิชา หรือทดลองอ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษและให้ผู้ใกล้ชิดที่มีความรู้ภาษาอังกฤษที่ดีพอสมควร
ฟังและวิจารณ์ปัญหาสำคัญโดยทั่วไปของคนไทยทั้งทักษะทางการพูด
มักเนื่องมาจากากรการขาดโอกาสที่จะพูดภาษาอังกฤษ
การเพิ่มทักษะทางการพูด ลองฝึกพูดภาษาอังกฤษวันละบ่อยๆ ทุกๆวัน วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนภาษาอังกฤษ
คือการพูดภาษาอังกฤษนั้นๆ ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มพูดและรู้ศัพท์เล็กน้อย
หรือค่อนข้างพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล้ว
การพูดภาษาอังกฤษกับคนอื่นเป็นวิธีการฝึกพูดภาษาอังกฤษที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
อย่ารอจนกว่าคุณจะรู้สึกพร้อมที่จะพูดภาษาอังกฤษ เพราะคุณมักจะไม่รู้สึกแบบนั้น
ถ้าคุณพึ่งหัดพูด สิ่งที่คุณควรทำ คือควรหัดพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่วันนี้
แล้วคุณจะแปลกใจ เมื่อได้เห็นทักษะภาษาอังกฤษของคุณพัฒนาไปได้ขนาดไหน
ลองหาชาวต่างชาติที่พูดภาษาอังกฤษดูสักคน โดยหาคนที่สามารถให้เวลากับคุณในการฝึกพูดภาษาอังกฤษได้
คุณอาจจะเสนอว่า คุณจะช่วยสอนภาษาไทยให้เขาเป็นการตอบแทน
แล้วคุณก็อาจจะผลัดกันฝึกภาษาอย่างเช่น พูดคุยเป็นเวลาสามสิบนาทีต่อมา
แต่ถ้าหากคุณอยู่ในประเทศใช้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว คุณอาจจะลองฝึกพูดโดยเริ่มจากบทสนทนาง่ายๆ
กับคนที่คุณพบเจอ เช่น การที่คุณกับพนักงานในร้านขายของ หรือถามทางคนแปลกหน้า
สิ่งสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษ คือการมีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ
ตั้งเป้าหมายในการเรียนภาษา แล้วยึดมั่นเป้าหมายนั้นโดยเตือนตัวเองในการเรียนภาษาต่อไป
เช่น คุณสามารถนำทักษะภาษาอังกฤษนี้ไปใช้กับประเทศต่างๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษต่างๆ
ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ทำให้คุณได้พบเจอเพื่อนใหม่ๆ ได้เรียนรู้พฤติกรรมใหม่ๆ
และยังอาจจะทำให้คุณมีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพของคุณได้
หมั่นฝึกฝนภาษาอังกฤษให้ทุกวัน
จะช่วยให้คุณใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล้วได้ในเวลาไม่นาน
การเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลนั้น ขึ้นอยู่กับการใช้ภาษาบ่อยๆ หากไม่ได้ทบทวนคำศัพท์นานๆ
คุณก็จะสามารถลืมสิ่งที่คุณได้เรียนไปในครั้งก่อนๆ คุณไม่ควรลืมเรื่องการพูด
เพราะการพูดเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดขอองภาษา
ดังนั้นคุณควรฝึกฝนการพูดทุกครั้งที่มีโอกาส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น