Adverb clause
คำกริยาวิเศษณ์
คือคำที่ใช้ขยายคำกริยาหรืออธิบายลักษณะการกระทำกริยานอกจากนี้ยังใช้ขยายคำคุณศัพท์
และบางคำใช้ขยายคำกริยาวิเศษณ์ด้วยกันได้คำกริยาวิเศษณ์มีทั้งที่เป็นคำเดียวและเป็นกลุ่มคำ
ปัญหาในการใช้คำกริยาวิเศษณ์ คือการวางตำแหน่งของคำในประโยค เพราะในบางครั้งความหมายของประโยคจะเปลี่ยนไป
เมื่อวางคำกริยาวิเศษณ์ไว้ในตำแหน่งที่ต่างกัน Adverbs of Time คือ
กริยาวิเศษณ์แสดงเวลา นั้นเป็นคำที่บ่งบอกถึงเหตุการณ์ต่างๆว่าเกิดขึ้นเมื่อใด (when)
หรือ ใช้เวลานานเท่าใด (for how long) ซึ่งคำเหล่านี้นั้นมีอยู่มากมาย
โดยที่มักเห็นได้ทั่วไป นั่นก็คือ today, tonight, yesterday, finally,
eventually, just, already, now, once, then, after, soon, before, sometime,
immediately, recently, early, last…, next… และอื่นๆ
การวางตำแหน่งของ Adverbs of
time
Adverb ที่บอกว่าเกิดเมื่อใด ( When ) ส่วนมากจะนิยมวางท้ายประโยค
เช่น
I 'm going to tidy my room
tomorrow. ฉันจะจัดห้องให้เป็นระเบียบเรียบร้อยพรุ่งนี้
You have to get back before dark.
คุณต้องกลับมาก่อนจะมืดค่ำ
Everyone arrived early. ทุกคนมาเร็วกว่าเวลาที่กำหนด
It is time to leave now. ได้เวลาที่จะต้องไปแล้ว
แต่อาจวางหน้าประโยคได้เช่น
Today I will go to the library. วันนี้
ฉันจะไปห้องสมุด
Now it is time to leave. ได้เวลาที่จะต้องไปแล้ว
Adverb of time ส่วนมากจะวางไว้ในกลางประโยคไม่ได้
ยกเว้น now, once, และ then เช่น
It is now time to leave.
Adverb ที่บอกว่าเป็นเวลานานแค่ไหน ( for how
long ) ส่วนมากวางท้ายประโยคเช่นกัน เช่น
I lived in Australia for a year. ฉันเคยอยู่ที่ออสเตรเลียเป็นเวลา
1 ปี
My daughter went out with her
friends all day. ลูกสาวฉันออกไปกับเพื่อนของเธอทั้งวัน
John will be here from tomorrow
till next week. จอห์นจะอยู่ที่นีตั้งแต่พรุ่งนี้ถึงอาทิตย์หน้า
Adverb ที่บอกว่าบ่อยแค่ไหน ( how often ) เป็นการแสดงความถี่ของการกระทำ
ส่วนมากวางหน้ากริยาหลัก ( main verb ) แต่หลังกริยาช่วย ( auxiliary verbs ) เช่น be, have, may, must
I often eat vegetarian food. ฉันรับประทานอาหารมังสวิรัติอยู่บ่อยๆ
He never drinks milk. เขาไม่เคยดื่มนม
You must always fasten your seat
belt. คุณจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยเสมอ (เช่น เวลาขับรถ
นั่งเครื่องบิน )
Adverb ที่บอกว่าบ่อยแค่ไหนซึ่งระบุจำนวนเวลาของการกระทำที่แน่นอน
ส่วนมากจะวางท้ายประโยค เช่น
This magazine is published
monthly. นิตยสารฉบับนี้ออกเป็นรายเดือน
He visits his mother once a week.
เขาไปเยี่ยมมารดาของเขาอาทิตย์ละครั้ง (เป็นกิจวัตร)
Adverbsที่สามารถวางท้ายประโยค
หรือวางหน้ากริยาหลักเช่น frequently,generally,
normally, occasionally,often, regularly, sometimes, usually เช่น
She regularly visits France. เธอไปฝรั่งเศสเป็นประจำอย่างสม่ำ่เสมอ
She visits France regularly.
We occasionally go to the cinema.
เราไปดูภาพยนต์ในบางโอกาส
We go to the cinema occasionally.
หมายเหตุ
sometime ( ขณะใดขณะหนึ่งในอดีต,อนาคต)
เป็น adverb ที่บอกว่าการกระทำเกิดเมื่อใด ( When )
sometimes ( บางครั้งบางคราว ) เป็น adverb ที่บอกความถี่ของการกระทำ
( how often ) ดังนี้
I would like to read that book
sometime. ฉันอยากจะอ่านหนังสือเล่มนั้นเมื่อใดเมื่อหนึ่ง
I sometimes see him in the park. ฉันเจอเขาในสวนสาธารณะเป็นครั้งคราว
Adverb Clause of Time
คำนำหน้า:
when, whenever, while, before, after, as soon as, by the time,
since, until
ตัวอย่างประโยค:
He has lived here since
he was born.
Please give me a call
as soon as you reach home.
สิ่งที่ต้องระวังเกี่ยวกับ adverb clause ประเภทนี้คือ
tense
Adverb Clause of Time (วิเศษณานุประโยคที่บอกเกี่ยวกับเวลา)
คำสันธาน ( Conjunctions ) ที่ใช้เชื่อมอนุประโยคเพื่อบอกเวลาได้แก่when,
before,after, since, as soon as , till , until , whenever
ตัวอย่าง when , while เช่น
1.While I was walking along the
street,I saw a filmstar yesterday. เมื่อวานนี้ขณะที่ผมกำลังเดินไปตามถนนอยู่
นั้นผมได้เห็นดาราภาพยนตร์คนหนึ่ง
2. She will go when her father
arrives. เธอจะไปเมื่อคุณพ่อของเธอมาถึง
3. The alarm clock is useful when I
go to bed late at night. นาฬิกาปลุกนั้นมีประโยชน์เมื่อผมเข้านอกดึก
หมายเหตุ
- ประโยคแรก Adverb Clause คือ While I was walking along
the street ขยายกริยา saw ในประโยคหลัก
- ประโยคที่สอง Adverb Clause คือ when her father arrives ขยายกริยาแท้ก็คือ
go ในประโยคหลัก
- ประโยคที่สาม Adverb Clause คือ when I go to bed late at
night
ขยายคุณศัพท์ก็คือ useful ในประโยคหลัก
Before
1.Before I go to bed, I must read
a book. ก่อนที่ผมจะเข้านอน
ผมจะต้องอ่านหนังสือก่อน
2. You have to came to see me before
I leave for Canada.คุณจะต้องมาพบผมก่อนที่ผมจะเดินทางไปประเทศแคนาดา
After
1.After the student had left,
the headmaster arrived. หลักจากที่นักเรียนกลุ่มนั้นออกไปแล้วครูใหญ่ก็ได้มาถึง
2.He called me after he had
finished his homeworkเขาโทรมาหาฉัน
หลังจากที่เขาได้ทำการบ้านของเขาเสร็จ
Since
1. Since she
arrived in Bangkok,She hasn't called me yet. ตั้งแต่เธอเดินทางมาถึงกรุงเทพเธอยังไม่ได้โทรศัพท์หาผมเลย
2.He has been working in a company
Since he left school.เขาได้ทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งเรื่อยมาตั้งแต่เขาเรียนหนังสือจบแล้ว
As soon as
1. Suda will leave home as soon as
you arrive. พอคุณสุดามาถึง
สุดาก็จะไปทันที
2. As soon as she finished reading
the note,she rang up her mother.ทันที่ที่เธออ่านข้อความ นั้นเสร็จ
เธอก็ได้
โทรศัพท์ไปหาคุณแม่ของเธอ
While = at the same time as (ขณะที่)
1.While she was cooking, I was
reading. ขณะที่เธอกำลังทำอาหาร
ผมก็กำลังอ่านหนังสือ
2. Everybody was quiet, while I was
teaching.ทุกคนเงียบขณะที่ผมกำลังสอนหนังสืออยู่
As = while
1.Everybody laughed as I was teaching. ทุกคนหัวเราะ ขณะที่ผมกำลังสอน
Till = until
1. Don't go
anywhere till (until) she comes back. อย่าไปไหนจนกว่าเธอกลับมา
2.I won't go anywhere till (until) you
let me go. ผมไม่ไปไหนจนกว่าคุณจะให้ผมไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น